เปิดร้านขายต้นไม้ต้องเสียภาษีไหม …คำถามนี้สามารถตอบได้เลยว่า มีทั้งที่เสียภาษีและได้ยกเว้นภาษี ซึ่งภาษีที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจขายต้นไม้ต้องแตกรายละเอียดเป็น 2 ประเด็น คือ
– ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)
– ภาษีเงินได้
โดยรายได้จากการขายต้นไม้แบบจริงจังทำเป็นอาชีพ ทั้งที่เปิดขายหน้าร้านและที่ขายออนไลน์ จะถือว่าเป็นรายได้จากการทำงานจึงต้องเสียภาษี แต่ธุรกิจขายต้นไม้ของใครจะเข้าข่ายต้องเสียภาษีอะไรบ้าง หรือได้รับยกเว้นภาษีไหน ไปพิสูจน์ด้วยกัน
เปิดร้านขายต้นไม้ต้องเสียภาษีไหม …ยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม
เปิดร้านขายต้นไม้ต้องเสียภาษีไหมนั้น สำหรับภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ไม่ว่าจะเป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล การขายต้นไม้ในส่วนของต้น ก้าน กิ่ง ใบ ราก เหง้า หรือขายทั้งต้น จะได้รับยกเว้นการเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม ตามมาตรา 81(1)
“การขายพืชผลทางการเกษตรไม่ว่าจะเป็นลำต้น กิ่ง ใบ เปลือก หน่อ ราก เหง้า ดอก หัว ฝัก เมล็ด หรือส่วนอื่นๆ ของพืช และวัตถุพลอยได้จากพืช ที่อยู่ในสภาพสดหรือรักษาสภาพไว้ เพื่อไม่ให้เสียเป็นการชั่วคราวในระหว่างขนส่ง ด้วยการแช่เย็น แช่เย็นจนแข็งหรือด้วยการจัดทำ หรือปรุงแต่งโดยวิธีการอื่น หรือรักษาสภาพไว้เพื่อไม่ให้เสียเพื่อการขายปลีก หรือขายส่งด้วยวิธีการแช่เย็น แช่เย็นจนแข็ง ทำให้แห้ง บด ทำให้เป็นชิ้น หรือด้วยวิธีการอื่น ข้าวสาร หรือผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการสีข้าว
“แต่ไม่รวมถึงไม้ซุง ฟืน หรือผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการเลื่อยไม้ หรือผลิตภัณฑ์อาหารที่บรรจุกระป๋อง ภาชนะ หรือหีบห่อที่ทำให้เป็นอุตสาหกรรมตามลักษณะและเงื่อนไขที่อธิบดีกำหนด”
ดังนั้น แม้ธุรกิจการขายต้นไม้จะมีรายได้เกิน 1.8 ล้านบาท ก็ไม่ต้องจดภาษีมูลค่าเพิ่ม แต่ยกเว้นให้เฉพาะการขายต้นไม้เท่านั้น ไม่นับรวมการตัดไม้แปรรูปเป็นไม้ซีก ไม้ซุง การส่งออก เป็นต้น ลักษณะนี้จะไม่ได้ยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือในส่วนของการขายต้นไม้ที่ได้รับยกเว้นไม่ต้องจดภาษีมูลค่าเพิ่ม หากต้องการจดภาษีมูลค่าเพิ่มก็สามารถทำได้
เปิดร้านขายต้นไม้ต้องเสียภาษีไหม …ต้องเสียภาษีเงินได้
ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
ถ้าเป็นบุคคลธรรมดาเปิดร้านขายต้นไม้ต้องเสียภาษีไหม สามารถอธิบายได้ว่าการขายต้นไม้ไม่ว่าจะเป็นการขายออฟไลน์หรือออนไลน์ ผู้มีรายได้มีหน้าที่ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา โดยคำนวณจากรายได้ตลอดทั้งปี สูตรการคำนวณคือ
(รายได้ – ค่าใช้จ่าย – ค่าลดหย่อน) x อัตราภาษี = ภาษีที่ต้องจ่าย
ทั้งนี้ ค่าใช้จ่ายสำหรับธุรกิจการขายต้นไม้ จัดเป็นเงินได้ประเภทที่ 8 ซึ่งการขายต้นไม้ประเภทไม้ล้มลุกหรือไม้ยืนต้น สามารถเลือกหักค่าใช้จ่ายแบบเหมาได้ 60% หรือหักตามค่าใช้จ่ายจริง แต่ต้องมีหลักฐานประกอบการยื่นภาษีด้วย
โดยหลักการพิจารณาว่าควรเลือกเหมาจ่ายหรือจ่ายตามจริงดีกว่ากัน ให้คำนวณต้นทุนว่ามีสูงกว่า 60% และมีหลักฐานครบ ทำเป็นธุรกิจจริงจัง ให้หักตามจริงจะเสียภาษีน้อยลง แต่ถ้ามีต้นทุนต่ำกว่า 60% ให้เลือกหักแบบเหมา 60% จะง่ายกว่า
จากนั้นหักลบด้วยค่าลดหย่อนส่วนตัว 60,000 บาท และค่าลดหย่อนอื่นๆ ถ้ามี ซึ่งสามารถตรวจสอบได้จากบทความ “เจาะลึก! วางแผน ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา” แล้วนำเงินได้สุทธิที่ได้มาคูณกับอัตราภาษีก้าวหน้า ดังนี้
เงินได้สุทธิ 1 – 150,000 บาท ได้รับการยกเว้น
เงินได้สุทธิ 150,001 – 300,000 อัตราค่าภาษี 5% (เสียภาษีสูงสุดของชั้นไม่เกิน 7,500 บาท)
เงินได้สุทธิ 300,001 – 500,000 อัตราค่าภาษี 10% (เสียภาษีสูงสุดของชั้นไม่เกิน 20,000 บาท)
เงินได้สุทธิ 500,001 – 750,000 อัตราค่าภาษี 15% (เสียภาษีสูงสุดของชั้นไม่เกิน 37,500 บาท)
เงินได้สุทธิ 750,001 – 1,000,000 อัตราค่าภาษี 20% (เสียภาษีสูงสุดของชั้นไม่เกิน 50,000 บาท)
เงินได้สุทธิ 1,000,001 – 2,000,000 อัตราค่าภาษี 25% (เสียภาษีสูงสุดของชั้นไม่เกิน 250,000 บาท)
เงินได้สุทธิ 2,000,001 – 5,000,000 อัตราค่าภาษี 30% (เสียภาษีสูงสุดของชั้นไม่เกิน 900,000 บาท)
เงินได้สุทธิ 5,000,001 บาทขึ้นไป อัตราภาษี 35% (เสียภาษีไม่จำกัด)
ภาษีเงินได้นิติบุคคล
เปิดร้านขายต้นไม้ต้องเสียภาษีไหมถ้าจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล แน่นอนว่าต้องเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล โดยคำนวณภาษีจากกำไรสุทธิ สูตรคือ
(รายได้ – ค่าใช้จ่าย) = กำไรสุทธิ
แล้วนำกำไรสุทธิที่ได้มาเปรียบเทียบกับอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคล ที่ทุนไม่เกิน 5 ล้านบาท + รายได้ทั้งปีไม่เกิน 30 ล้านบาท ดังนี้
กำไรสุทธิ 300,000 บาทแรก = ยกเว้นภาษี
กำไรสุทธิ 300,001 – 3 ล้าน = ภาษี 15%
กำไรสุทธิมากกว่า 3 ล้านบาทขึ้นไป = ภาษี 20%
แต่ถ้าไม่เข้าเกณฑ์ดังกล่าว ให้จัดอยู่ในอัตราภาษีเท่ากับ 20% ตั้งแต่กำไรบาทแรก
สรุป
ดังนั้น เปิดร้านขายต้นไม้ต้องเสียภาษีไหม สามารถสรุปได้ว่า
– ได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) เฉพาะขายต้นไม้เท่านั้น ไม่นับรวมการตัดไม้แปรรูปเป็นไม้ซีก ไม้ซุง การส่งออก เป็นต้น
– มีหน้าที่ต้องเสียภาษีเงินได้ ทั้งที่ขายต้นไม้ในนามบุคคลธรรมดาและจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล
หากเปิดร้านขายต้นไม้เป็นอาชีพเมื่อไหร่ แม้ว่าจะทำในนามบุคคลธรรมดา ทั้งขายหน้าร้านและขายออนไลน์ ทำแค่ชั่วคราวหรือทำถาวร จำเป็นต้องเก็บข้อมูลรายได้ให้ชัดเจนตลอดทั้งปี และเก็บหลักฐานต่างๆ ให้ครบ พร้อมกับนำรายได้มายื่นเสียภาษีประจำปี
ส่วนร้านขายต้นไม้ที่มีรายได้สูงหลายล้าน มีการจ้างพนักงาน และเสียภาษีอัตราสูงกว่า 20% ควรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล และจ้างทำบัญชีตามระเบียบที่กฎหมายกำหนด เพื่อให้ส่งงบการเงินแก่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า และส่งภาษีแก่กรมสรรพากรได้อย่างถูกต้อง จะช่วยให้เสียภาษีได้น้อยลงแบบถูกกฎหมายนั่นเอง