ตามหาพ่อค้าแม่ค้า online ที่อยากสัมมนาภาษี-บัญชี

เข้าร่วมไขความลับเรื่อง ภาษี-บัญชี รู้ทันสรรพากรภายใน 1 วัน
  ในงานสัมมนา “รู้ ครบ จบหมด บัญชีภาษี ธุรกิจขายของ online”

ค่าสัมมนา
4,900 บาท

สำนักงานบัญชีคุณภาพ แบบไหนที่ควรเลือก

สำนักงานบัญชีคุณภาพ

สำนักงานบัญชีคุณภาพ ที่ควรเลือก นอกจาก “ราคา” ที่เป็นตัวแปรแรกในการตัดสินใจ ก่อนเข้าไปพูดคุยกับสำนักงานบัญชีนั้นๆ แล้ว ยังมีตัวช่วยอื่นที่ไม่ควรมองข้ามคือ

  • ติดต่อง่าย สะดวก รวดเร็ว
  • สำนักงานบัญชีมีตัวตนอยู่จริง มีหลักแหล่งชัดเจน
  • สามารถให้คำปรึกษาเรื่องบัญชี ภาษีแก่กิจการได้
  • ขอบเขตบริการบัญชีที่ตกลงให้บริการ
  • มีคุณสมบัติครบถ้วนตามกฎหมายกำหนด

เมื่อผู้ประกอบการต้องมองหาสำนักงานบัญชีที่มีบริการรับทำบัญชีเพื่อมาช่วยงานของบริษัท คุณๆ ทั้งหลายจะเลือกจากสิ่งไหนกันบ้างค่ะ เชื่อว่าหลายเสียงคงเน้นไปที่เรื่องของ “ราคา” ยิ่งถูกยิ่งดีเป็นแน่

แต่อย่าเพิ่งใจร้อนรีบด่วนตัดสินใจแบบนั้น เพราะราคาเพียงอย่างเดียวอาจจะยังไม่เพียงพอและไม่สามารถการันตีถึงคุณภาพที่ดีของสำนักงานบัญชีได้ทั้งหมด

 

หรือถ้าหากว่าสำนักงานบัญชีที่มีคุณภาพจะมาพร้อมกับราคาที่ถูกและดีได้จริง แต่ก็ต้องมีองค์ประกอบอย่างอื่นช่วยสนับสนุนในการตัดสินใจเลือกอยู่ดีว่า สำนักงานบัญชีคุณภาพ แบบไหนที่ควรเลือกกันแน่  

 

ราคาสมเหตุสมผล

คงปฏิเสธไม่ได้ว่า มีผู้ประกอบการจำนวนไม่น้อย ที่พยายามหาข้อมูลเกี่ยวกับการจ้างทำบัญชี โดยด่านแรกที่นำมาตัดสินใจคือเรื่องของราคา หากสำนักงานบัญชีไหนทำการตลาดเรื่องราคาที่ถูก ก็มักจะถูกเลือกติดต่อพูดคุยก่อนเสมอ  

 

แต่ความจริงแล้วสำนักงานบัญชีที่มีคุณภาพจะมาพร้อมกับราคาที่สมเหตุสมผล มีความสมดุลกันระหว่างราคากับเนื้องาน หากเนื้องานน้อย เอกสารไม่มาก แน่นอนว่าราคาย่อมถูกลง แต่ถ้าหากเอกสารมีจำนวนเยอะ ต้องทำหลายอย่าง รวมถึงความซับซ้อนของแต่ละกิจการ ราคาก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย ขึ้นอยู่กับขอบเขตบริการบัญชีที่ตกลงให้บริการกัน

 

ทั้งนี้ หากเราเลือกตัดสินใจแค่ว่าขอที่ราคาถูกเข้าไว้ หรือแพงที่สุดคือสำนักงานบัญชีที่มีคุณภาพที่สุด ก็คงไม่ถูกต้องนัก ทุกอย่างควรอยู่ที่ความพอดี สมเหตุสมผล ไม่เช่นนั้นผู้ประกอบการอาจจะต้องทำใจยืนอยู่บนความเสี่ยงตลอดเวลา ว่า สำนักงานบัญชีคุณภาพ ที่เราเลือกอาจจะทำงานที่ไม่มีคุณภาพออกมา หรือเมื่อได้รับเงินก้อนโตไปแล้วกลับหายไปจากเราก็ได้   

ติดต่อง่าย สะดวก รวดเร็ว

เมื่อเลือกได้แล้วว่าจะติดต่อสำนักงานบัญชีแห่งไหน ในการติดต่อไปหาเพียงครั้งแรกก็สามารถตัดสินใจได้บางส่วนแล้วว่าจะเลือกสำนักงานบัญชีแห่งนี้ดีหรือไม่ ซึ่งถ้าหากติดต่อได้ง่าย โทรไปมีคนรับทันที พร้อมให้ข้อมูล สามารถให้คำปรึกษาได้อย่างรวดเร็ว ย่อมสร้างความประทับใจให้กับผู้ประกอบการตั้งแต่ครั้งแรกอย่างแน่นอน 

 

อีกทั้งยังเป็นเครื่องการันตีได้ว่า เมื่อผู้ประกอบการเลือกสำนักงานบัญชีนี้แล้ว จะไม่เงียบหาย โดยเฉพาะสำนักงานบัญชีคุณภาพจะต้องมีการจัดสรรพนักงานเพื่อมาดูแลบัญชีของเราโดยเฉพาะ เพื่อให้การติดต่อประสานงานได้ง่าย สะดวกและรวดเร็ว ทราบรายละเอียดต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับบัญชีของผู้ประกอบการอย่างต่อเนื่องไม่เปลี่ยนคนไปมาให้สับสน

สำนักงานบัญชีมีตัวตนอยู่จริง มีหลักแหล่งชัดเจน

การมีตัวตนอยู่จริงและมีที่อยู่ชัดเจนของสำนักงานบัญชี ถือเป็นตัวแปรสำคัญอีกอย่างหนึ่ง สำหรับการเลือกจ้างสำนักงานบัญชี เนื่องจากในอนาคตหากเกิดอะไรขึ้น ผู้ประกอบการจะมั่นใจได้ว่า สำนักงานบัญชีที่เราเลือกจะอยู่คอยช่วยเหลือตลอด อย่างเช่น หากถูกเรียกตรวจสอบย้อนหลัง หรือสารวัตรบัญชีเรียกพบ

 

อีกทั้งเอกสารบัญชีต่างๆ ของเราซึ่งต้องไปอยู่กับสำนักงานบัญชี หากมีที่อยู่ที่เป็นหลักแหล่งชัดเจน มีตัวตนเอยู่จริงก็ยังเบาใจได้ว่าผู้ประกอบการจะสามารถหาสำนักงานเจอ            

สามารถให้คำปรึกษาเรื่องบัญชี ภาษีแก่กิจการได้

หลังจากพิจารณาแล้วว่าสำนักงานบัญชีแห่งนี้ ถูกต้องตรงกับสำนักงานบัญชีคุณภาพตั้งแต่ต้น จนมาถึงจุดที่จะต้องตกลงว่าจ้าง ผู้ประกอบการควรมีการสอบถามเกี่ยวกับธุรกิจของตนเอง เพื่อพิจารณาว่าสำนักงานบัญชีนั้น มีความเข้าใจพื้นฐานในธุรกิจของเราแค่ไหน สามารถตอบคำถามและให้คำปรึกษาเราได้หรือไม่

 

            หากไม่ค่อยมั่นใจในคำตอบ อาจจะสอบถามสำนักงานบัญชีหลายๆ แห่ง แล้วนำมาเปรียบเทียบว่าที่ไหนให้คำปรึกษาได้เข้าใจมากกว่ากัน แล้วค่อยตัดสินใจอีกครั้ง

ขอบเขตบริการบัญชีที่ตกลงให้บริการ

หากมั่นใจว่าสำนักงานบัญชีสามารถให้คำปรึกษาได้อย่างถ่องแท้ ในส่วนของขอบเขตงานบัญชี จะเป็นตัวบ่งชี้ว่า งานที่ผู้ประกอบการต้องการจ้างนั้น สำนักงานบัญชีมีขอบเขตมากน้อยตรงกับความต้องการของเราหรือไม่ ซึ่งขอบเขตงานโดยทั่วไปของสำนักงานบัญชี จะประกอบไปด้วย

  1. งานรายเดือน
  • รับเอกสารจากลูกค้านำมาบันทึกบัญชีรายการรายรับรายจ่าย
  • สรุปยอดภาษีรายเดือนที่เกี่ยวข้อง จัดทำแบบและยื่นภาษีให้กับลูกค้า
  • นำส่งประกันสังคม กยศ รายเดือน (ถ้ามี)

      2. งานรายปี

  • จัดทำงบการเงิน
  • ส่งงบการเงินให้ผู้ตรวจสอบบัญชี เพื่อตรวจสอบและออกรายงานของผู้สอบบัญชี
  • จัดทำแบบยื่น และนำส่งงบการเงินและรายงานผู้สอบบัญชีแก่กรมสรรพากร และกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์

 

แต่ถ้าหากผู้ประกอบการต้องการให้ทำข้อมูลในส่วนอื่นๆ เพิ่ม ก็ต้องมีการพูดคุยตกลงกันก่อนจ้างงานว่าสามารถทำเพิ่มในส่วนที่ผู้ประกอบการต้องการได้หรือไม่ด้วย

มีคุณสมบัติครบถ้วนตามกฎหมายกำหนด

 

เมื่อสำนักงานบัญชีที่เราหมายปอง ผ่านด่านตัวเลือกตั้งแต่ราคาเป็นที่น่าพึงพอใจ ติดต่อง่าย มีตัวตนชัดเจน ความรู้ด้านบัญชีแน่น มีประสบการณ์มาอย่างยาวนาน สามารถให้คำปรึกษาเราได้เข้าใจง่าย

 

ตัวแปรสุดท้ายคือ สำนักงานบัญชีคุณภาพจะต้องมีคุณสมบัติครบถ้วนตามที่กฎหมายกำหนด คือเรื่องของวุฒิการศึกษา ต้องผ่านการขึ้นทะเบียนกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าและสภาวิชาชีพบัญชี รวมถึงยังต้องมีการอบรมทุกปี เพื่อรักษาสถานะผู้ทำบัญชีไว้ หรือที่เรียกว่า การพัฒนาความรู้ต่อเนื่อง (CPD)      

 

โดยนักบัญชีจะต้องมีคุณสมบัติเป็นไปตามเกณฑ์ที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้ากำหนด ดังนี้

  1. ห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน บริษัทจำกัด ที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย ที่มีทุนจดทะเบียนไม่เกิน 5 ล้านบาท มีสินทรัพย์รวมและรายได้รวมไม่เกิน 30 ล้านบาท ต้องมีวุฒิการศึกษาขั้นต่ำระดับ ปวส.ทางการบัญชี หรือ ปริญญาตรีทางการบัญชีขึ้นไป
  2. ห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน บริษัทจำกัด ที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย ที่มีทุนจดทะเบียนเกิน 5 ล้านบาท หรือมีสินทรัพย์รวม หรือรายได้รวมเกิน 30 ล้านบาท ต้องมีวุฒิการศึกษาระดับปริญญาตรีทางการบัญชีขึ้นไป
  3. บริษัทมหาชน ที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย ต้องมีวุฒิการศึกษาระดับปริญญาตรีทางการบัญชีขึ้นไป
  4. นิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายต่างประเทศประกอบธุรกิจในไทย ต้องมีวุฒิการศึกษาระดับปริญญาตรีทางการบัญชีขึ้นไป
  5. กิจการร่วมค้า ต้องมีวุฒิการศึกษาระดับปริญญาตรีทางการบัญชีขึ้นไป

เลือกสำนักงานบัญชีผิด ส่งผลอย่างไรบ้าง

ดังนั้น หากผู้ประกอบการกำลังคิดจะเลือกจ้างสำนักงานบัญชีที่มีคุณภาพ จะต้องคำนึงถึงคุณสมบัติของผู้ทำบัญชีต้องครบถ้วนตามที่กฎหมายกำหนด มีความเชี่ยวชาญเรื่องบัญชีภาษีมาอย่างยาวนาน ที่สำคัญควรเลือกสำนักงานบัญชีที่ติดต่อได้ง่าย มีที่อยู่เป็นหลักแหล่งชัดเจน เพื่อให้ดูมีความน่าเชื่อถือ ไม่หนีหายจากเราไปในอนาคต

เพราะถ้าหากเลือกสำนักงานบัญชีผิด จะส่งผลในระยะยาวอย่างแน่นอน กล่าวคืออาจถูกปรับสูงสุดถึง 50,000 บาท หากคุณสมบัติของนักบัญชีไม่ครบตามเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด หรือถ้าสำนักงานบัญชีไม่ทำบัญชีส่งให้จะถูกปรับ 3,000 บาท และบวกเพิ่มอีกวันละ 1,000 บาท เมื่อยื่นงบการเงินและภาษี ไม่แจ้งชื่อผู้ทำบัญชี ถูกปรับ 10,000 บาท ไม่ส่งงบการเงิน ถูกปรับ 50,000 บาท เลยทีเดียว

 

อย่างน้อยที่สุดการที่เราได้ร่วมงานกับสำนักงานบัญชีที่มีคุณภาพ มีความเป็นมืออาชีพ ก็เปรียบเสมือนเพื่อนสนิท ที่พร้อมจะร่วมทุกข์ร่วมสุขไปกับเราเสมอนั่นเอง