ตามหาพ่อค้าแม่ค้า online ที่อยากสัมมนาภาษี-บัญชี

เข้าร่วมไขความลับเรื่อง ภาษี-บัญชี รู้ทันสรรพากรภายใน 1 วัน
  ในงานสัมมนา “รู้ ครบ จบหมด บัญชีภาษี ธุรกิจขายของ online”

ค่าสัมมนา
4,900 บาท

ธุรกิจโรงแรมเสีย… ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง มากกว่าภาษีที่ดินทั่วไป??

ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง

ตามกฎหมายได้กำหนดว่า ใครที่เป็นเจ้าของที่ดิน สิ่งปลูกสร้าง มีหน้าที่ต้องเสีย ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ซึ่งปกติจะมีจดหมายแจ้งประเมินราคาที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ส่งไปให้เจ้าของที่ดินและสิ่งปลูกสร้างทุกปีอยู่แล้ว

รวมถึงธุรกิจที่ใช้ประโยชน์ทางการค้าจากที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง อย่างเช่น โรงแรม รีสอร์ต จะถือเป็นที่ดินในกลุ่มพาณิชยกรรมและอุตสาหกรรม คือทำประโยชน์ด้านพาณิชยกรรม ก็ต้องเสีย ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ในกลุ่มประเภทที่ใช้ประโยชน์อื่นนอกเหนือจากที่กฎหมายกำหนด ในอัตราภาษี 0.3-0.7% เช่นกัน

โดยผู้ประกอบกิจการโรงแรม รีสอร์ต โดยเฉพาะมือใหม่ อย่าเพิ่งวางใจ ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ที่เคยจ่ายไปอาจสูงกว่าเดิม

ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง คืออะไร

ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง คือภาษีที่จัดเก็บจากโรงเรือนหรือสิ่งปลูกสร้างอย่างอื่น กับที่ดินที่ใช้อย่างต่อเนื่องกับโรงเรือนหรือสิ่งปลูกสร้างนั้น โดยแยกลักษณะของที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเป็น 2 ประเภท คือ 

1.โรงเรือน เช่น โรงแรม รีสอร์ต โรงพยาบาล โรงเรียน อพาร์ตเมนต์ คอนโดมิเนียม หอหัก บ้าน ตึกแถว อาคาร ร้านค้า สำนักงาน ธนาคาร เป็นต้น  

2.สิ่งปลูกสร้างอื่นๆ หมายถึง สิ่งปลูกสร้างอื่นที่ก่อสร้างติดที่ดินถาวร เช่น สะพาน ท่าเรือ คานเรือ อ่างเก็บน้ำ ถังเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่ก่อสร้างติดที่ดินถาวร 

ที่ดินที่ใช้ต่อเนื่องกับโรงเรือนหรือสิ่งปลูกสร้างอย่างอื่น หมายถึง ที่ดินที่ใช้ต่อเนื่องกับโรงเรือนหรือสิ่งปลูกสร้างอื่น และบริเวณต่อเนื่องซึ่งใช้ด้วยกันกับโรงเรือนหรือสิ่งปลูกสร้างนั้น โดยหมายรวมถึงทางน้ำ บ่อน้ำ สระน้ำด้วย

ใครต้องเสียภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง  

สำหรับผู้ที่มีหน้าที่ต้องเสียภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง คือ ผู้ที่เป็นเจ้าของทรัพย์สินโรงเรือน สิ่งปลูกสร้าง เช่น ตึก อาคาร คอนโดมิเนียม หรือสิ่งปลูกสร้างอย่างอื่นที่ใช้หาผลประโยชน์โดยใช้เป็นสถานประกอบการพาณิชย์ต่างๆ ให้เช่า หรือผู้อื่นอยู่อาศัย เช่น โรงแรม รีสอร์ต หอพัก จะต้องเสียภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างด้วย

เว้นแต่ว่าที่ดินและสิ่งปลูกสร้างต่างๆ เจ้าของเป็นคนละคนกัน ให้เจ้าของกรรมสิทธิ์ในที่ดินและสิ่งปลูกสร้างต่างๆ เป็นผู้มีหน้าที่เสียภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง

 

อัตราภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างประจำปี

เนื่องจากที่ดินและสิ่งปลูกสร้างมีการนำมาใช้ประโยชน์หลายรูปแบบ ทั้งเพื่ออยู่อาศัยและเพื่อการพาณิชย์อย่างเช่นโรงแรม จึงทำให้ที่ดินแต่ละประเภทจะต้องเสียภาษีตามลักษณะการใช้ประโยชน์ที่ต่างกัน ดังนี้

1.การประกอบเกษตรกรรม อัตราภาษีที่จัดเก็บ ร้อยละ 0.01-0.1 

2.ที่อยู่อาศัย อัตราภาษีที่จัดเก็บ ร้อยละ 0.02-0.1 แยกย่อยได้คือ

– ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่เจ้าของซึ่งเป็นบุคคลธรรมดา อัตราภาษีที่จัดเก็บ ร้อยละ 0.03-0.1

– สิ่งปลูกสร้างที่เจ้าของซึ่งเป็นบุคคลธรรมดาใช้เป็นที่อยู่อาศัยและมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน อัตราภาษีที่จัดเก็บ ร้อยละ 0.02-0.1

– ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ใช้ประโยชน์เป็นที่อยู่อาศัยกรณีอื่นนอกเหนือจากที่กล่าวไปแล้ว อัตราภาษีที่จัดเก็บ ร้อยละ 0.02-0.1

3.การใช้ประโยชน์อื่นนอกเหนือจากข้อ 1 และข้อ 2 อัตราภาษีที่จัดเก็บ ร้อยละ 0.3-0.7

4.ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ทิ้งไว้ว่างเปล่า หรือไม่ได้ทำประโยชน์ตามควรแก่สภาพ อัตราภาษีที่จัดเก็บ ร้อยละ 0.3-0.7

 

หลักการคำนวณภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างธุรกิจโรงแรม

จากอัตราภาษีที่ดินและสิ่งที่ปลูกสร้างสำหรับผู้ประกอบกิจการโรงแรม รีสอร์ต ไม่ว่าจะเป็นในนามบุคคล หรือนิติบุคคล จัดอยู่ในกลุ่มการใช้ประโยชน์อื่นนอกเหนือจากข้อ 1 และข้อ 2 อัตราภาษีที่จัดเก็บคือร้อยละ 0.3-0.7

โดยวิธีการคำนวณภาษี จะคำนวณจากมูลค่าของฐานภาษี (ราคาประเมินทุนทรัพย์ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างจากกรมธนารักษ์) ตามสูตร ดังนี้

มูลค่าของฐานภาษี  x อัตราภาษี  = ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง  

 

มูลค่าฐานภาษี (ล้านบาท) อัตราภาษี ล้านละ (บาท)
0-50 0.3% 3,000
50-200 0.4% 4,000
200-1,000 0.5% 5,000
1,000-5,000 0.6% 6,000
5,000 ขึ้นไป 0.7% 7,000

ตัวอย่างการคำนวณภาษี

สมมุติเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างโรงแรมมีมูลค่า ดังนี้

– ที่ดิน มูลค่า 5,000,000 บาท

– สิ่งปลูกสร้าง (หักค่าเสื่อมแล้ว) 2,0000,000 บาท 

– รวมมูลค่า 7,000,000 บาท

– เมื่อเทียบกับตารางจะอยู่ในช่วง 0-50 ล้านบาท  

ดังนั้น ภาษีที่ต้องเสียคือ 7,000,000 x 0.3% = 21,000 บาท

 

ระยะเวลายื่นภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง

สำหรับผู้ประกอบการโรงแรมที่เข้าข่ายต้องเสียภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง จำเป็นต้องเป็นผู้ที่ครอบครองหรือใช้ประโยชน์ในที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้าง ในวันที่ 1 มกราคมของปีภาษีนั้น เช่น ซื้อที่ดินและสิ่งปลูกสร้างวันที่ 30 ธันวาคม พ.ศ.2564 ต้องเสียภาษีในปี พ.ศ.2565 เนื่องจากถือว่าได้ครอบครองในวันที่ 1 มกราคม พ.ศ.2565  

โดยผู้ที่เข้าข่ายต้องเสียภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง จะมีแบบประเมินภาษีที่ต้องเสีย ส่งเป็นเอกสารมาให้ที่บ้านภายในเดือนกุมภาพันธ์ของแต่ละปี ซึ่งในแบบประเมินภาษีจะประกอบด้วย

– รายการที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้าง

– ราคาประเมินทุนทรัพย์

– อัตราภาษี

– จำนวนภาษีที่ต้องชำระ  

และผู้ได้รับสามารถนำใบประเมินไปยื่นเสียภาษีภายในวันที่ 30 เมษายนของปีนั้น โดยไม่ต้องยื่นเอกสารหรือกรอกข้อมูลอะไรอีก สถานที่ชำระภาษีในพื้นที่ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างตั้งอยู่ ดังนี้ 

– เทศบาล ให้ชำระที่สำนักงานเทศบาล 

– อบต. ให้ชำระที่สำนักงานองค์การบริหารส่วนตำบล 

– กรุงเทพฯ ให้ชำระที่สำนักงานเขต 

– เมืองพัทยา ให้ชำระที่ศาลาว่าการเมืองพัทยา

ทั้งนี้ ยังมีภาษีอื่นๆ ที่ผู้ประกอบการโรงแรมในนามนิติบุคคล มีหน้าที่ต้องเสียภาษีและต้องทำบัญชีให้ถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนด พร้อมส่งให้สำนักงานบัญชีที่รับตรวจสอบบัญชีเซ็นรับรองข้อมูล ก่อนส่งให้กรมสรรพากร โดยศึกษาข้อมูลภาษีที่เกี่ยวข้องได้จากบทความ เตรียมพร้อมเมื่อกิจการต้องเสีย ภาษีโรงแรม”