ตามหาพ่อค้าแม่ค้า online ที่อยากสัมมนาภาษี-บัญชี

เข้าร่วมไขความลับเรื่อง ภาษี-บัญชี รู้ทันสรรพากรภายใน 1 วัน
  ในงานสัมมนา “รู้ ครบ จบหมด บัญชีภาษี ธุรกิจขายของ online”

ค่าสัมมนา
4,900 บาท

เปิดตำรา… วิธีจดทะเบียนร้านรับซื้อของเก่า มีอะไรบ้าง

วิธีจดทะเบียนร้านรับซื้อของเก่า

วิธีจดทะเบียนร้านรับซื้อของเก่า …อาชีพรับซื้อและขายของเก่า ดูเหมือนว่าจะเป็นอาชีพที่สามารถทำได้ง่ายๆ สบายๆ แต่ความจริงแล้วการจะประกอบอาชีพนี้ต้องรู้เกี่ยวกับตัวบทกฎหมายด้วย เพราะในปัจจุบันมีบทลงโทษที่หนักเกี่ยวกับการรับซื้อและขายของเก่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งบทกำหนดโทษและอัตราโทษเกี่ยวกับการขายทอดตลาดหรือค้าของเก่าประเภทโบราณวัตถุ และการรับซื้อของผิดกฎหมาย ดังนั้นผู้ประกอบการควรศึกษาให้ดีๆ ก่อนเปิดธุรกิจจะดีกว่า 

ซึ่งวันนี้มีเรื่องที่จะแชร์ให้กับผู้ที่อยากทำธุรกิจร้านรับซื้อของเก่าว่ามีขั้นตอนอย่างไร รวมถึง วิธีจดทะเบียนร้านรับซื้อของเก่า ว่ามีเอกสารอะไรที่ต้องเตรียมบ้าง ซึ่งเชื่อว่ายังมีผู้ประกอบอาชีพค้าของเก่าอีกจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียวที่ยังไม่ทราบและยังไม่รู้จะเริ่มต้นจากตรงไหนดี ลองมาเรียนรู้ไปพร้อมๆ กันได้เลย

ก่อนถึง วิธีจดทะเบียนร้านรับซื้อของเก่า ต้องรู้ประเภทของเก่ากันก่อน

ประเภทธุรกิจรับซื้อของเก่าที่แยกย่อยตาม พระราชบัญญัติ ควบคุมการขายทอดตลาดและค้าของเก่า พุทธศักราช ๒๔๗๔ โดยกำหนดขอบเขตให้ดำเนินตามขั้นตอน และทำการขออนุญาตจากเจ้าหน้าที่ก่อนทำการเปิดธุรกิจ สามารถแยกได้ดังนี้

1.ประเภทโบราณวัตถุ หรือศิลปวัตถุตามกฎหมายว่าด้วยโบราณสถาน โบราณวัตถุ และพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ

2.ประเภทเพชร พลอย ทอง นาก เงิน หรืออัญมณี

3.ประเภทรถยนต์ตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ ได้แก่ รถยนต์สาธารณะ รถยนต์บริการ และรถยนต์ส่วนบุคคล

4.ประเภทอื่นๆ เช่น รถจักรยานยนต์ อะไหล่รถจักรยานยนต์ ธนบัตร กล้องถ่ายรูป เครื่องใช้ไฟฟ้า โทรศัพท์ เหล็ก พลาสติก  ไม้เรือนเก่า ตู้เก่า  พระเครื่อง นาฬิกา ขวดแก้ว พลาสติก กระดาษ เศษเหล็ก ทองแดง ทองเหลือง สเตนเลส เฟอร์นิเจอร์เก่า 

สิ่งที่กล่าวมาด้านบนนี้เป็นข้อมูลเบื้องต้นที่ผู้ทำธุรกิจรับซื้อ-ขายของเก่าต้องทราบเกี่ยวกับประเภทก่อนจะเริ่มวิธีจดทะเบียนร้านรับซื้อของเก่า     

 

วิธีจดทะเบียนร้านรับซื้อของเก่า แบบครบถ้วน

การจดทะเบียนพาณิชย์ คือ ทะเบียนสำหรับคนค้าขายที่มีหน้าร้านต้องจดตามที่พระราชบัญญัติทะเบียนพาณิชย์ พ.ศ.2499 กำหนด ซึ่งในกรณีที่เจ้าของธุรกิจรับซื้อ-ขายของเก่า ที่มีสถานที่ตั้ง หน้าร้าน เป็นของตนเอง ก็ต้องมีการจดทะเบียนพาณิชย์ให้ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งวิธีการและเอกสารจดทะเบียนพาณิชย์ประกอบด้วย

1.เตรียมสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้านของเจ้าของธุรกิจ

2.เตรียมแบบคำขอจดทะเบียนพาณิชย์ แบบ ทพ.

3.แผนที่แสดงสถานที่ตั้งร้าน

4.หากเป็นนิติบุคคลให้เตรียมหนังสือรับรองบริษัท

5.เตรียมเงินจำนวน 50 บาท

6.หนังสือยินยอมให้ใช้สถานที่ หรือสัญญาเช่า (กรณีเจ้าของธุรกิจไม่ใช่เจ้าของสถานที่)

7.สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้านของเจ้าของกรรมสิทธิ์ (กรณีเจ้าของธุรกิจไม่ใช่เจ้าของสถานที่)

8.สำเนาหนังสืออนุญาต หรือหนังสือรับรองให้เป็นผู้จำหน่ายจากเจ้าของลิขสิทธิ์ (เฉพาะธุรกิจขาย ให้เช่า ผลิต หรือรับจ้างผลิต แผ่นซีดี แถบบันทึก วีดิทัศน์ แผ่นวีดิทัศน์ ดีวีดี หรือแผ่นวีดิทัศน์ระบบดิจิตอลเฉพาะที่เกี่ยวกับบันเทิง)

9.หลักฐานแสดงจำนวนเงินทุน ยกเว้นนิติบุคคล (เฉพาะธุรกิจขายอัญมณี หรือเครื่องประดับที่ประดับด้วยอัญมณี)

โดยสามารถยื่นขอจดทะเบียนพาณิชย์ได้ที่ สำนักงานเขต สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง สำนักการคลัง เทศบาล อบต. ที่ธุรกิจของผู้ประกอบการตั้งอยู่เท่านั้น 

 

ขั้นตอนการขออนุญาตเปิดธุรกิจรับซื้อของเก่า หลังรู้วิธีจดทะเบียนร้านรับซื้อของเก่าเรียบร้อยแล้ว

การดำเนินธุรกิจร้านรับซื้อ-ขายของเก่า จะต้องขออนุญาตเปิดธุรกิจรับซื้อของเก่าก่อน โดยให้ดำเนินการตามขั้นตอนดังต่อไปนี้ 

1.คุณสมบัติของผู้ขอใบอนุญาต

– มีอายุ 20 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป

– มีความรู้หนังสือไทยพออ่านออกเขียนได้

– เป็นผู้ที่ไม่เคยต้องโทษจำคุกความผิดฐานปลอมแปลงเงินตรา กรรโชกทรัพย์ ยักยอก ฉ้อโกง รับของโจร ตามประมวลกฎหมายอาญา 

2.หลักฐานการขออนุญาตเปิดธุรกิจร้านรับซื้อ-ขายของเก่า

– บัตรประจำประชาชนพร้อมสำเนา 

– ทะเบียนบ้านพร้อมสำเนา

– รูปถ่ายหน้าตรง ขนาด 2 นิ้ว จำนวน 3 รูป

– ทะเบียนพาณิชย์ หนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคลพร้อมสำเนา

– หนังสือยินยอมให้ใช้สถานที่ หรือหลักฐานการเป็นเจ้าของ หรือสัญญาเช่า

– ใบอนุญาตจากกรมศิลปากรหรือค้าของเก่าประเภทโบราณวัตถุหรือศิลปวัตถุตามกฎหมายว่าด้วยโบราณสถาน โบราณวัตถุศิลปวัตถุ และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ

3.ขั้นตอนขออนุญาตเปิดธุรกิจร้านรับซื้อ-ขายของเก่า 

– ผู้ขออนุญาตยื่นคำร้อง ณ ที่ว่าการอำเภอที่จะดำเนินการ

– จากนั้นอำเภอตรวจสอบเอกสาร หากครบถ้วนถูกต้องจะส่งต่อมาที่จังหวัด

– เมื่อทางจังหวัดตรวจสอบเอกสาร และผู้ขอมีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ถูกต้องจึงทำการออกใบอนุญาต และส่งกลับอำเภอ

– ทางอำเภอแจ้งผู้ขออนุญาต เพื่อรับใบอนุญาตและดำเนินการชำระค่าธรรมเนียม

-ทางอำเภอแนบสำเนาใบเสร็จรับเงินส่งไปทางจังหวัด เพื่อบันทึกรายละเอียดลงในต้นฉบับใบอนุญาต เพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐาน

สำคัญ : ในกรณีเป็นการต่ออายุใบอนุญาต เจ้าของธุรกิจร้านรับซื้อ-ขายของเก่าต้องยื่นคำขอต่ออายุใบอนุญาตก่อนที่ใบอนุญาตนั้นหมดอายุ 90 วัน ณ ที่ว่าการอำเภอหรือจังหวัดที่เคยยื่น

4.การจัดการหลังได้ใบอนุญาตแล้ว

– เจ้าของธุรกิจต้องติดใบอนุญาตไว้ให้เห็นชัดเจน

– ทำสมุดบัญชีเพื่อแสดงข้อมูลที่สำคัญ

– แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจหากมีผู้มาขายของผิดกฎหมายให้

5.ค่าธรรมเนียมการเปิดร้านรับซื้อ-ขายของเก่ามีดังนี้

– ประเภทค้าของเก่าวัตถุโบราณ ปีละ 12,000 บาท

– ประเภทค้าของเก่าเพชร พลอย ทอง นาค เงิน หรืออัญมณี ปีละ 10,000 บาท

– ประเภทค้าของเก่ากลุ่มรถยนต์ ปีละ 7,500 บาท   

– ประเภทอื่นๆ เช่น ขวด พลาสติก โลหะ ทองเหลือง ทองแดง เฟอร์นิเจอร์เก่า ฯลฯ ปีละ 5,000 บาท 

ทั้งนี้หากเจ้าของธุรกิจร้านรับซื้อ-ขายของเก่าไม่ทำตามกฎระเบียบข้อบังคม จะมีโทษตามกฎหมาย ดังนั้นเจ้าของธุรกิจควรศึกษาให้ดีและทำตามอย่างเคร่งครัด สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กรมการปกครอง 

 

โดยสรุปแล้วการทำธุรกิจรับซื้อ-ขายของเก่านั้น มีขั้นตอนที่ละเอียดมากพอสมควร โดยเฉพาะวิธีจดทะเบียนร้านรับซื้อของเก่า และการขอใบอนุญาตการรับซื้อ-ขายของเก่า ส่วนการรับซื้อของเก่าทางเจ้าของธุรกิจต้องดูให้ละเอียดว่ารับซื้อของโจรมาหรือไม่ หากไม่แน่ใจให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อเข้ามาตรวจสอบโดยด่วน 

นอกจากนี้ยังมีในส่วนของการทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายของร้านรับซื้อ-ขายของเก่าด้วย ที่มีความจำเป็นไม่น้อยเลยทีเดียว หากเจ้าของธุรกิจไม่แน่ใจในเรื่องการเงินตรงนี้ควรให้นักบัญชีเข้ามาช่วยแนะนำเพื่อให้ธุรกิจมีความราบรื่นยิ่งขึ้น